ผลักดันนิรโทษกรรมคดีการเมืองประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน คืนสิทธิให้ผู้เห็นต่าง แต่ไม่นิรโทษคนทำรัฐประหาร เจ้าหน้าที่ที่สลายการชุมนุมเกินกว่าเหตุ

ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้วงจรความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ โดยมีจุดเริ่มต้นสำคัญนับตั้งแต่ปี 2549 ผ่านเหตุการณ์การชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่มีความคิดทางการเมืองแตกต่างกัน รวมถึงการรัฐประหาร 2 ครั้งในปี 2549 และ 2557
ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านี้ มีประชาชนถูกกล่าวหาและดำเนินคดีทางการเมืองนับพันคดี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการฟ้องร้องกันเองหรือการฟ้องร้องโดยเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ตาม กระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องมีการตีความและบังคับใช้กฎหมายที่แตกต่างหลากหลาย รวมถึงการลงโทษที่หนักและรุนแรงโดยไม่ได้พิจารณาถึง "มูลเหตุจูงใจทางการเมือง" ของผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมุ่งหวังที่จะให้สังคมดีขึ้นในแนวทางของตน ปัญหาเหล่านี้สั่นคลอนความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมและเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้สังคมไทยก้าวพ้นจากปัญหาความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานนี้ได้
พรรคประชาชนเสนอนโยบาย นิรโทษกรรมประชาชน ทุกคนที่ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่การชุมนุมเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ปฏิบัติและผู้สั่งการที่ใช้อำนาจเกินสมควรกว่าเหตุ และการทำรัฐประหารยึดอำนาจ
พรรคประชาชนจะยื่นร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ที่ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อนิรโทษกรรม โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีสัดส่วนจากสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี ศาล และอัยการ โดยให้วินิจฉัยภายใน 60 วันนับตั้งแต่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับ