สร้างสวัสดิการที่อยู่อาศัย 1 ล้านยูนิตใน 4 ปี ผ่านการอุดหนุนค่าเช่า สินเชื่อบ้านหลังแรก และเปลี่ยนผู้เช่าการเคหะฯ เป็นเจ้าของ เพื่อความมั่นคงของประชาชน

อุปสรรคในการเป็นเจ้าของบ้าน: ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวนมากไม่สามารถเป็นเจ้าของที่พักอาศัยได้ ทำให้ขาดความมั่นคงในชีวิต เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยและค่าเช่าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขาดโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ ขาดเงินออมหรือมีประวัติทางการเงินที่ไม่ชัดเจนพอ
ความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ: อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีห่วงโซ่เชื่อมโยงกับภาคส่วนอื่น ๆ ในประเทศจำนวนมาก (เช่น การเงิน วัสดุก่อสร้าง รับเหมา เฟอร์นิเจอร์) การสนับสนุนภาคส่วนนี้จึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
สนับสนุนสวัสดิการที่อยู่อาศัยทั้งระบบ เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน ตั้งเป้าหมาย บ้าน 1 ล้านหลัง ภายใน 4 ปี ผ่านโครงการหลักดังนี้:
1. อุดหนุนค่าเช่าที่อยู่อาศัย
เป้าหมาย: ช่วยเหลือ 500,000 ครัวเรือนที่มีค่าเช่าไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือน โดยอุดหนุนค่าเช่า 50% (ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน เพื่อลดภาระค่าครองชีพทันที
งบประมาณ: ประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี
2. เปลี่ยนเช่าเป็นเช่าซื้อ
เป้าหมาย: เปลี่ยนเงื่อนไขให้ผู้เช่าห้องของการเคหะแห่งชาติจำนวน 65,000 ห้อง สามารถเป็นเจ้าของได้ทันทีด้วยค่าเช่าเท่าเดิม เมื่อชำระค่าเช่าเกินเกณฑ์ที่กำหนด
3. โครงการเช่าออมบ้าน
เป้าหมาย: จูงใจเอกชนเสนอที่อยู่อาศัย 50,000 ยูนิต ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยให้ประชาชนจ่ายค่าเช่าและใช้ประวัติการจ่ายไปยื่นกู้สินเชื่อบ้านได้ ส่วนผู้ประกอบการจะได้รับวงเงินสินเชื่อพิเศษเพื่อสภาพคล่อง
งบประมาณ: ประมาณ 1,250 ล้านบาทต่อปี
4. โครงการสินเชื่อบ้านหลังแรก
เป้าหมาย: อุดหนุนดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นเจ้าของบ้าน เพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 350,000 ยูนิต
งบประมาณ: ประมาณ 19,250 ล้านบาทต่อปี
5. สินเชื่อรีโนเวท / ซื้อบ้านบังคับคดี
เป้าหมาย: ให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสำหรับการปรับปรุงอาคาร หรือซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี จำนวน 100,000 ยูนิต (ยูนิตละ 100,000 บาท) เพื่อเพิ่มที่อยู่อาศัยทางเลือกในเขตเมือง
งบประมาณ: ประมาณ 5,500 ล้านบาทต่อปี
6. โครงการบ้านมั่นคง
เป้าหมาย: พัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ดินรัฐร่วมกับท้องถิ่น 35,000 ยูนิต เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่บุกรุก พร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้ท้องถิ่นนำไปพัฒนาโครงการ
งบประมาณ: ประมาณ 420 ล้านบาทต่อปี
เปลี่ยนนโยบายของการเคหะแห่งชาติ จาก “เช่า” เป็น “เช่าซื้อ” ทันที เพื่อให้ผู้เช่าปัจจุบันสามารถเป็นเจ้าของห้องการเคหะฯ ได้เลย
จัดสรรงบประมาณประจำปี สวัสดิการอุดหนุนช่วยเหลือค่าเช่าที่อยู่อาศัย สำหรับผู้เช่าที่แจ้งสัญญาเช่าและมีหลักฐานการโอนเงินค่าเช่า
สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ:
อนุมัติมติ ครม. สนับสนุนงบประมาณให้ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษที่อยู่อาศัยให้กับผู้ขอกู้สินเชื่อบ้าน
จัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านหลังแรก
ปรับปรุงกฎหมายและการใช้ที่ดิน:
อนุญาตให้ท้องถิ่นใช้ที่ดินราชการ/รัฐวิสาหกิจ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการบ้านมั่นคงได้มากขึ้น
ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ อาคารชุด และหมู่บ้านจัดสรร เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ราคาย่อมเยา