เปลี่ยนตาดีกาจากพื้นที่ความมั่นคงเป็นสวนการเรียนรู้

ยุติการกำกับดูแลตาดีกาผ่านมุมมองความมั่นคงที่สร้างบรรยากาศความหวาดระแวง โดยเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่แห่งความรู้และความเข้าใจตามหลักสิทธิมนุษยชน

เปลี่ยนตาดีกาจากพื้นที่ความมั่นคงเป็นสวนการเรียนรู้

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

“ตาดีกา” ไม่ได้เป็นเพียงสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้านศาสนา แต่คือหัวใจสำคัญในรักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่นภาษามลายูและวิถีชีวิตมุสลิม พรรคประชาชนเสนอแนวทางการเปลี่ยนบทบาทจาก "การถูกควบคุมโดยหน่วยงานความมั่นคง" ไปสู่ "การกำกับดูแลโดยท้องถิ่น" เพื่อให้ตาดีกาเป็นสวนแห่งการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีตาดีกามากกว่า 2,100 แห่ง คำว่า "ตาดีกา" (TADIKA) มาจากภาษามลายู (Teman Didikan Kanak-Kanak) แปลว่าสวนแห่งการเรียนรู้ของเด็ก เป็นพื้นที่เดียวที่เด็กเยาวชนจะได้เรียนรู้อิสลามศึกษาควบคู่กับภาษามลายู ซึ่งเป็นรากแก้วของวัฒนธรรมในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผชิญความท้าทายที่เป็น "คอขวด" มายาวนาน ดังนี้:

  • การถูกกำกับดูแลผ่านมุมมองความมั่นคง: แตกต่างจาก "ศูนย์อบรมศาสนาและจริยธรรมประจำมัสยิด" ในภูมิภาคอื่นที่กำกับโดยกรมการศาสนา แต่ตาดีกาในภาคใต้ถูกจับตาและควบคุมอย่างเข้มงวดโดย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เนื่องจากความกังวลเรื่องการบ่มเพาะทัศนคติที่ออกห่างจากรัฐ นำไปสู่ปฏิบัติการทางจิตวิทยาที่กระทบต่อบรรยากาศการเรียนรู้

  • อุปสรรคทางกฎหมายและการสนับสนุน: แม้จะมีงบประมาณสนับสนุนบ้าง แต่สถานะทางกฎหมายที่คลุมเครือทำให้อุปสรรคต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและหลักสูตร นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องการเข้าสนับสนุนมักถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจนขาดความคล่องตัว

 

เราจะทำอะไร (WHAT)

พรรคประชาชนต้องการยกระดับ “ตาดีกา” ให้เป็นสถาบันการศึกษาที่มีมาตรฐานและได้รับการเคารพในความหลากหลาย ผ่าน 3 แนวทางหลัก:

  1. การยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม: ส่งเสริมการสอนภาษามลายูและศาสนาอิสลามอย่างเปิดกว้าง โดยถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

  2. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น: เปลี่ยนบทบาทการกำกับดูแลจากส่วนภูมิภาคและหน่วยงานความมั่นคง มาเป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้การสนับสนุนงบประมาณและหลักสูตรสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน

  3. การสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางการศึกษา: ยุติการนำมิติทางการเมืองและความมั่นคงเข้ามาแทรกแซงพื้นที่การเรียนรู้ เพื่อให้เด็กและบุคลากรทางการศึกษาทำงานได้อย่างสบายใจ

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

เพื่อแปรนโยบายไปสู่การปฏิบัติ พรรคประชาชนเสนอมาตรการดังนี้:

  • ปฏิรูปกลไกกำกับดูแล: กระทรวงศึกษาธิการ และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะทบทวนและปลดล็อกระเบียบที่ปิดกั้น อปท. ในการเข้ากำกับดูแลตาดีกา เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • การยุติปฏิบัติการทางจิตวิทยา: กำหนดเป็นมาตรการเร่งด่วนให้หน่วยงานความมั่นคงหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในเชิงแทรกแซงหรือเฝ้าระวังโรงเรียนทุกประเภท เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดความขัดแย้ง

  • การลงนามในปฏิญญาสากล: รัฐบาลจะร่วมลงนามใน ปฏิญญาว่าด้วยโรงเรียนปลอดภัย (Safe School Declaration) ของสหประชาชาติ เพื่อเป็นหลักประกันในระดับสากลว่าพื้นที่การเรียนรู้ในไทยจะได้รับการคุ้มครองจากการใช้กำลังและความรุนแรงทางการเมืองทุกรูปแบบ